5 คำเตือนสำหรับรถยนต์ที่คุณไม่ควรละเลย
BANGKOK: คุณสามารถรับของขวัญจากแฟน, เซ็นต์สัญญาโครงการใหม่ๆ จากผู้จัดการของคุณ แต่คุณไม่ควรเซ็นสัญญาค้ำประกันให้เพื่อนเด็ดขาด ถึงแม้คุณจะเคยเห็นสัญญาณเตือนดังกล่าว หรือไม่ก็ตามแต่คุณต้องแน่ใจว่าคุณจะไม่พลาดที่จะตรวจสอบสัญญาณแจ้งเตือนจากรถของคุณ โดยควรจะนำนิสัยของคนรักรถยนต์ที่เห็นรถยนต์สำคัญที่สุดมาใช้เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์จะมีสภาพดีอยู่เสมอ เนื่องจากรถยนต์ก็มักจะมีสิ่งที่ต้องซ่อมอย่างไม่คาดหมายเสมอๆ จึงมีการส่งสัญญาณเตือนผ่านทางไฟแจ้งเตือนที่ทางโรงงานติดตั้งมาด้วย และบทความนี้ CarBay ก็จะพาคุณไปรู้จักกับสัญญาณเตือน 5 อย่างที่คุณไม่ควรละเลย
ไฟแจ้งเตือนความดันน้ำมันเครื่อง:
ไฟจะแจ้งเตือนเมื่อความดันน้ำมันเครื่องลดลงกว่ามาตรฐาน ซึ่งจะอันตรายต่อเครื่องยนต์ของคุณเป็นอย่างมาก โดยสิ่งแรกที่คุณต้องทำคือการจอดรถ, เช็คระดับน้ำมันเครื่อง และอาจจะหาจุดที่น้ำมันรั่วหรือเครื่องยนต์อาจจะมีปัญหาจนทำให้ระดับน้ำมันลดลงมากเกินไป วิธีการที่ดีที่สุดที่จะแก้ไขคือนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการซ่อมรถ และตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจในการใช้งานรถยนต์แบบระยะยาว
ไฟแจ้งเตือนอุณหภูมิ:
ไฟจะแจ้งเตือนเมื่อเครื่องยนต์มีอุณหภูมิที่มากเกินไป โดยคุณต้องระมัดระวังเนื่องจากความบกพร่องนี้จะสามารถทำอันตรายเครื่องยนต์ได้อย่างถาวร ซึ่งอาจจะเกิดขากสารหล่อเย็นที่น้อยเกินไป, ปั้มน้ำเสีย, เทอร์โมสแตตอุดตัน, หม้อน้ำชำรุดหรือสายพานเซอร์เพนไทม์เสีย จึงควรมีการตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็น และหากจำเป็นก็ต้องเพิ่มน้ำหล่อเย็นในอัตราส่วน 50/50 ของน้ำกลั่นที่สะอาด ข้อควรระวัง: ไม่ควรเปิดฝาหม้อน้ำจนกว่าเครื่องยนต์จะเย็นลงเนื่องจากความดันไอน้ำภายในจะสามารถสร้างอันตรายแก่คุณได้
ไฟแจ้งเตือนระบบไฟในรถยนต์:
สัญญาณเตือนภัยนี้อาจจะแตกต่างกันในรถแต่ละคัน แต่มักจะแจ้งว่าแบตเตอร์รี่ต่ำ โดยไฟเตือนนี้บ่งชี้ว่ากำลังไฟในแบตเตอรี่รถยนต์อยู่ในระดับต่ำหรือมีความผิดในแบตเตอรี่ ขณะที่ขับรถถ้าสัญญาณปรากฏขึ้นคุณควรปิดวิทยุ, AC และอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่อื่น ๆ โดย คำแนะนำให้คุณตรวจสอบแบตเตอร์รี่หรือเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ตัวใหม่ก่อนที่จะเกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ โดยอายุการใช้งานแบตเตอรี่ปกติจะประมาณ 60-84 เดือน แต่มักจะใช้งานได้ไม่ยาวนานเท่านั้นซึ่งทำให้คุณจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบแบตเตอร์รี่เป็นระย
ไฟเบรก:
ไฟมักจะแจ้งเตือนถ้าไม่ได้ปลดเบรกมือ แต่ก็ยังอาจจะหมายปัญหาทางเทคนิคของเบรที่คุณไม่ควรละเลย นอกจากนี้อาจจะหมายถึงระดับน้ำมันเบรกต่ำหรือการสูญเสียความดันไฮดรอลิในวงจรเบรก ในทั้ง 2 กรณีอาจจะทำให้ไม่สามารถใช้งานเบรกได้ ดังนั้นคุณควรตรวจสอบเสมอว่าระบบยังทำงานปกติหรือไม่ หากผิดปกติควรตรวจสอบน้ำมันเบรก หรือหากมีปัญหาทั้งที่ตัวระบบเบรก และระดับน้ำมันเบรกคุณควรจะนำรถไปซ่อมเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย
ไฟแจ้งเตือนแรงดันยาง:
ไฟจะแจ้งเตือนเมื่อแรงดันยางต่ำกว่าปกติ ซึ่งการขับขี่ด้วยยางที่แบนจะทำให้เกิดความร้อนสูง และอาจทำให้ยางระเบิดได้ คำแนะนำของเราคือให้คุณขับรถช้าๆ หลีกเลี่ยงพื้นถนนที่ไม่เรียบ และเข้าไปในปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุดเพิ่มเติมลงยางให้มีระดับความดันที่เหมาะสมพร้อมกับตรวจสอบการรั่วไหลของยาง หากต้องเดินทางไกลก็ควรมียางอะไหล่สำรองไว้ด้วย
นอกเหนือจากนี้รถทุกคันยังมีรูปแบบไฟแจ้งเตือนที่แตกต่างกันไป เพื่อที่จะแจ้งคุณ ให้ทราบเกี่ยวกับปัญหาของรถยนต์ โดยคุณสามารถอ่านข้อมูลเหล่านี้ได้ในคู่มือการให้บริการของรถ หากพบไฟแจ้งเตือนเหล่านี้ระหว่างขับรถคุณก็ไม่ควรที่จะละเลยมัน และควรปฏิบัติตามขั้นตอนง่ายๆที่เราได้นำเสนอในบทความนี้เพื่อให้คุณสามารถดูแลรถยนต์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
- ล่าสุด
- เป็นที่นิยม
- ล่าสุด
- ล่าสุด
- เป็นที่นิยม