Porsche ศึกษาการใช้เทคโนโลยี DAC ในการผลิต eFuel

กรุงเทพ: Porsche กำลังสำรวจการใช้เทคโนโลยี Direct Air Capture (DAC) ร่วมกับ Volkswagen Group Innovation และ MAN Energy Solutions โดยมีเป้าหมายที่จะบูรณาการเข้ากับโรงงานนำร่อง eFuels ของ HIF Global ในประเทศชิลี การประกาศนี้จัดทำขึ้นระหว่างการประชุมสุดยอด IAA ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี เทคโนโลยี DAC เป็นนวัตกรรมล้ำสมัยที่เพิ่งเข้าสู่การผลิตจำนวนมาก ซึ่งออกแบบมาเพื่อกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จำนวนมากออกจากชั้นบรรยากาศ ซึ่งมีส่วนช่วยต่อสู้กับภาวะโลกร้อน

โรงงาน DAC ได้รับการวางแผนที่จะแยก CO2 สำหรับการผลิต eFuels ที่โรงงานนำร่อง Haru Oni Barbara Frenkel สมาชิกคณะกรรมการบริหารฝ่ายจัดซื้อของ Porsche กล่าวว่าเทคโนโลยี DAC ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับอนาคต โดยมีศักยภาพในการผลิต eFuels ซึ่งช่วยเสริมการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า สิ่งนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างยิ่งเนื่องจากการมีรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) อยู่บนท้องถนนทั่วโลกอย่างต่อเนื่องมานานหลายทศวรรษ

ข้อได้เปรียบที่สำคัญของ DAC คือความสามารถในการดักจับ CO2 ทุกที่ที่มีพลังงานทดแทน โรงงานนำร่อง Haru Oni eFuels ซึ่งจะมีการบูรณาการโรงงาน DAC นั้น ใช้พลังงานลมเป็นไฟฟ้าและผลิตความร้อนผ่านกระบวนการผลิตไฮโดรเจน กระบวนการ DAC เกี่ยวข้องกับการส่งอากาศโดยรอบผ่านระบบกรองเพื่อขจัดสิ่งเจือปน โดยรวบรวม CO2 ในรูปแบบที่มีความบริสุทธิ์สูงสำหรับการใช้งานต่างๆ

CO2 ที่สกัดผ่าน DAC สามารถทำหน้าที่เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตพลาสติกที่ไม่ใช่ฟอสซิลและการสังเคราะห์เชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ Porsche และ HIF Global กำลังสำรวจว่า CO2 ที่สกัดด้วย DAC สามารถนำมาใช้ที่โรงงาน Haru Oni eFuels ได้อย่างไร โดยที่ CO2 จะถูกรวมเข้ากับไฮโดรเจนเพื่อผลิตเมทานอล ปัจจุบัน Haru Oni จัดหาคาร์บอนไดออกไซด์จากแหล่งชีวภาพ

โรงงานนำร่อง eFuels ของ HIF Global ก่อตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม 2022 โดยมีเป้าหมายเพื่อผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่เกือบจะเป็นกลางทางคาร์บอนสำหรับยานยนต์ ICE ในระยะนำร่อง ตั้งเป้าหมายการผลิต eFuel สูงถึง 130,000 ลิตรต่อปีเพื่อใช้ในงานต่างๆ เช่น Porsche Mobil 1 Supercup และที่ Porsche Experience Centers

Cesar Norton ประธานและซีอีโอของ HIF Global เน้นย้ำว่า eFuel ไม่ก่อให้เกิดคาร์บอนเป็นโซลูชั่นที่ใช้ได้จริงในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในภาคการขนส่ง และการร่วมมือกับ Porsche ในด้านเทคโนโลยี SAC เพื่อการกักเก็บ CO2 ที่มีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำ ถือเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การร่วมลงทุนครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออนาคตของการรีไซเคิลคาร์บอนไดออกไซด์ และการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

อ่านด้วย : พบกับ Porsche Cayenne Turbo E-Hybrid คาเยนน์ ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา