เอ็มจี และซูซูกิผลักดันการปลดล็อกการถือครองรถคันแรกให้เหลือ3ปี
BANGKOK: ค่ายรถยนต์สองค่ายจากสองทวีปทั้ง เอ็มจี และซูซูกิ สนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่จะผ่อนปรนเงื่อนไขถือครองรถยนต์ของผู้ใช้สิทธิ์ในโครงการรถยนต์คันแรกลดลงจาก 5 ปี เหลือ 3 ปี โดยคาดว่าจะทำให้ตลาดรถยนต์กลับมาคึกคัก หลังจากในครึ่งปีแรกยอดขายรถยนต์ยังซบเซาโดยคาดการณ์ว่ายอดขายนั้นต่ำกว่า 8 แสนคัน ด้านซูซูกิเปิดตัวอีโคคาร์ซีดานรุ่นใหม่ “เซียส” ราคา 4.84 - 6.25 แสนบาท ขณะที่เอ็มจีเล็งส่งคอมแพ็คซีดานอย่าง MG6 ไมเนอร์เชนจ์ ลุยตลาดภายในเดือนกรกฎาคมนี้
รองประธานกรรมการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ ให้สัมภาษณ์ว่า หากมีการปรับเงื่อนไขการถือครองรถยนต์คันแรกจาก 5 ปี ลงมาเหลือเพียง 3 ปีจะส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์โดยรวม เพราะในจำนวน1.3 ล้านคนที่ได้สิทธิ์ มีส่วนหนึ่งที่ย่อมอยากจะเปลี่ยนรถคันใหม่ภายในช่วงนี้ โดยการปลดล็อคช่วงการถือครองนี้จะช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ เพิ่มการหมุนเวียนของรถยนต์ในตลาด โดยทางเอ็มจีประเมินว่าแม้เพียง 10% ของผู้ที่เข้าร่วมโครงการรถยนต์คันแรก 1.3 ล้านคนต้องการเปลี่ยนรถใหม่ ก็สามารถทำให้ยอดขายรถใหม่ดีขึ้นแล้ว ซึ่งทางบริษัทเชื่อว่ามีคนยินดีที่จะจ่ายเงินก้อนให้กับสถาบันการเงิน เพื่อซื้อรถคันใหม่ที่อยากได้มากกว่า โดยทางเอ็มจีได้เตรียมแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ให้มากขึ้น ทุกรุ่นเป็นการผลิตในประเทศไทย โดยที่ผ่านมาเอ็มจี ทรีได้การตอบรับดีมาก ปัจจุบันส่งมอบรถให้ลูกค้าไปแล้ว 600 คัน และภายในเดือนนี้ยังมีการเปิดตัวเพิ่มอีกหนึ่งรุ่นซึ่งมีการคาดกันว่าจะเป็นเอ็มจี ซิกซ์รุ่นปรับโฉมใหม่
ส่วนทางด้านซูซูกินั้น นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดก็เห็นด้วยกับทางเอ็มจีโดยมีความเห็นว่าหากมีการปลดล็อกการถือครองรถยนต์ห้ามเปลี่ยนมือจาก 5 ปี เหลือ 3 ปี ตามเงื่อนไขโครงการรถยนต์คันแรก ซูซูกิมองว่าเป็นเรื่องดีที่จะมีส่วนกระตุ้นยอดขายรถยนต์ได้เป็นอย่างดี
โดยทางซูซูกินั้นมองว่าการอัดแคมเปญไม่ได้ทำให้ตลาดดีขึ้น เพราะกำลังซื้อลดลง ประกอบกับสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ดังนั้นซูซูกิจึงมุ่งหาวิธีให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์ได้ง่ายขึ้น ด้วยการจับมือกับสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตร ผ่อนปรนเงื่อนไขต่างๆ และลูกค้าสามารถรู้ผลการอนุมัติสินเชื่อภายในหนึ่งวัน
โดยในปัจจุบันตลาดรถยนต์รวมปีนี้จากที่เคยคาดว่าจะทำยอดขายได้เกิน 9 แสนคันนั้น ในความเป็นจริงคงไม่ถึง 8 แสนคันแล้ว ขณะที่บริษัทเองก็ปรับเป้าหมายการขายใหม่จาก 40,000 คัน เหลือ 35,000 คัน แบ่งเป็น สวิฟท์ 15,000 คัน เซเรลิโอ้ 4,500 คัน แคร์รี่ 4,500 คัน เออติก้า 2,000 คัน และรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุด เซียส 9,000 คัน ขณะที่ยอดการส่งออกรถยนต์ในปีนี้เพิ่มเป็น 40,000 คัน จาก 10,000 คัน ในปี 2557
- ล่าสุด
- เป็นที่นิยม
You might also be interested in
- ข่าว
- เรื่องราวที่โดดเด่น
- ล่าสุด
- ล่าสุด
- เป็นที่นิยม