JLR หันมาให้ความสำคัญกับ PHEV ท่ามกลางการชะลอตัวของยอดขาย EV ทั่วโลก

กรุงเทพ: Jaguar Land Rover (JLR) วางแผนเบื้องต้นที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ใหม่ 6 รุ่นภายในปี 2026 โดยมีเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนแบรนด์ Jaguar ด้วยระบบไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2025 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการชะลอตัวของความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปที่ยอดขายปลั๊กอิน (PHEV) เพิ่มขึ้น 68 เปอร์เซ็นต์ในปี 2023 JLR กำลังปรับกลยุทธ์ใหม่ บริษัทได้ตัดสินใจที่จะชะลอการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าและมุ่งเน้นไปที่ PHEV ให้มากขึ้นในระยะสั้น

Adrian Mardell ซีอีโอของ JLR รับทราบถึงการเปลี่ยนแปลงในภาพรวมของยานยนต์ โดยสังเกตว่าในขณะที่การเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) กำลังเผชิญกับอุปสรรค แต่ PHEV ก็ได้รับการยอมรับอย่างไม่คาดคิด ปัจจุบัน Land Rover ทุกรุ่น ยกเว้น Discovery มีรุ่นปลั๊กอินไฮบริดให้เลือก

แม้จะลดขนาดแผนรถยนต์ไฟฟ้าลง แต่ Land Rover ยังคงเปิดตัว Range Rover รถเอสยูวีไฟฟ้าล้วนคันแรก ซึ่งมียอดจองแล้วกว่า 16,000 คัน ตามมาด้วย Range Rover Sport เวอร์ชันไฟฟ้า ซึ่งทั้งสองรุ่นสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Modular Longitudinal Architecture (MLA) ของ JLR นอกจากนี้ ยังมี EV ขนาดเล็กอีก 2 รุ่นอยู่ในแผน ซึ่งน่าจะเป็นรุ่นต่อจาก Velar และ Evoque ซึ่งสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม EMA ของ JLR นอกจากนี้ยังมีการวางแผน Defender EV สำหรับอนาคตอีกด้วย

ในด้าน Jaguar ทางแบรนด์มีความแน่วแน่ในความมุ่งมั่นที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100% เท่านั้น หลังจากการรีแบรนด์ Jaguar จะเปิดตัว GT สี่ประตูไฟฟ้าล้วนเพื่อแข่งขันกับ Porsche Taycan ตามด้วย EV ที่เล็กกว่า เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) รุ่นปัจจุบัน ได้แก่ F-Pace, F-Type, E-Pace รวมถึง I-Pace จะถูกยกเลิกหลังจากรุ่นปัจจุบัน

แม้จะมีการปรับเปลี่ยนเหล่านี้ JLR ยังคงมุ่งมั่นในปณิธานด้านพลังงานไฟฟ้า โดยตั้งเป้ายอดขาย EV ให้ได้ 60 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2030 และจะเปลี่ยนไปใช้ EV 100 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2036

ที่มา: www.autocarindia.com

อ่านด้วย: นี่คือ Land Rover Defender Convertible รุ่นลิมิติด จำนวน 5 คันโดย Heritage Customs