อุตสาหกรรม ยานยนต์ ที่เติบโต ในประเทศไทย - รายงาน กระชับ

BANGKOK: อุตสาหกรรมรถนต์ไทยถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากในประเทศไทยมีการรวมตัวของค่ายรถยนต์มากมายทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ที่มีการผลิตทั้งในประเทศ และต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีแรงงานมีฝีมือที่มีค่าจ้างไม่แพงรวมถึงเป็นสถานที่ที่มีโอกาสมากมายในสร้างธุรกิจ และการลงทุน

ในปัจจุบันสถานการณ์ของอุตสาหกรรมรถนต์ไทยนั้นขึ้นอยู่กับการส่งออกเป็นหลัก เนื่องจากความต้องการสินค้าในประเทศยังคงต่ำอยู่ โดยเหตุการณ์นี้ทำให้ในปีนี้มียอดการผลิตตกลง 8.8% และยอดการขายภายในประเทศตกลงถึง 18.3% จากสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ดังกล่าว แต่ในปี 2012 ยอดขายในอุตสาหกรรมรถนต์ไทยมีการเพิ่มขึ้นมา 81%. จากนโยบายของรัฐบาล

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าการปรับตัวลดลงของการส่งออกรถยนต์ที่เป็นแหล่งรายได้หลักของผู้ผลิตรถยนต์ของไทยได้นั้นเนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนในสายการผลิตของรถกระบะค่ายหนึ่ง โดยตารางด้านล่างจะแสดงให้เห็นตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับการผลิตการค้าส่งในประเทศ และการส่งออกของรถใหม่:

ยอดการผลิต และการขายรถยนต์ใหม่ของประเทศไทย

จากสภาวะเศรษฐกิจ และยอดขายรถยนต์ในประเทศในปี 2015 ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยก็ได้กลายเป็นศูนย์กลางการขายยานยนต์ในภูมิภาคเอเชีย และยังมีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตที่แข็งแกร่งของประเทศที่จะมีการเติบโตขึ้นพร้อมๆ กับการพัฒนาของอุตสาหกรรมยานยนต์ สำหรับในช่วงต้นของปี 2015 ยอดขายของรถยนต์ในประเทศลดลงเหลือเพียง 35,922 คันซึ่ง และมียอดขายเพิ่มขึ้นอีก 23,518 คันในเดือนมิถุนายน 2015

 

ตารางแสดงยอดขายของรถยนต์ในแต่ละค่ายในดือนมิถุนายน 2015

ตามกราฟจะเห็นว่าโตโยต้ามียอดขายเป็นอันดับ 1

ผล

จากข้อมูล และความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญพบว่าผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2014 ยังคงถือว่ามีเสถียรภาพ สำหรับการส่งออกก็ยังคงที่โดยมียอดส่งออก 1.12 ล้านคัน และยอดขายในประเทศลดลงร้อยละ 33.7 คือมีจำนวน 881,832 คัน

เนื่องจากราคาผลผลิตที่ตกต่ำและสภาพอากศที่แห้งแล้ง ทำให้เกษตรกรมีเงินเข้ามาน้อยลงซึ่งก็ส่งผลโดยตรงกับอุตสาหกรรมรถยนต์เนื่องจากพวกเขาก็จะไม่มีความคิดที่จะซื้อรถใหม่ โดยส.อ.ท.คาดว่าในช่วงเดือนมีนาคมจะมีการผลิต2.15 ล้านคัน แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกืจที่อ่อนแอจะทำให้มียอดขายรถในประเทศพัยง 950,000 คันหรือ850,000-900,000 คันเท่านั้น และยังคาดว่าจะมีการเพิ่มภาษีรถยนต์นำเข้าเพื่อเป็นการผลักดันการเติบโตในปีนี้ ซึ่งการเพิ่มภาษีร้อยละ 5 - 10 จะทำให้ราคาขายปลีกเพิ่มขึ้นถึง 2 เปอร์เซ็นต์ แต่กลุ่มรถยนต์รักษ์สิ่งแวดล้อมจะมีภาษีต่ำกว่านี้

สำหรับแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2015 กระทรวงพลังงานจะมีการมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์กลุ่มที่ลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเสีย ในขณะเดียวกันก็ต้องการเพิ่มยอดขายในประเทศ และยอดขายการส่งออก

นอกจากนี้กระทรวงยังได้แนะนำแผนแม่บทสำหรับปี 2012-2016 ซึ่งมีแผนว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยจะกลายเป็นฐานการผลิตรถยนต์รักสิ่งแวดล้อม และจะขยายอุตสาหกรรมยานยนต์ให้มีฐานะเป็นศูนย์กลางการผลิตสำคัญของอาเซียนในตลาดโลก