เปิดตัวรถยนต์ Mercedes Benz 6 รุ่นใหม่ล่าสุด ในงาน Motor Expo 2015

BANGKOK: ความหรูหราอย่าง Mercedes Benz ส่งท้ายปี พ.ศ. 2558 ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ 6 รุ่นใหม่ล่าสุด (Mercedes-Benz latest models) คือ The new GLE 350 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic, The new GLE 250 d 4MATIC ซึ่งมีให้เลือก 2 รูปแบบ คือ Exclusive และ AMG Dynamic, The new A 180 Style, The new B 200 Urban และ G 350 d Sport และจะมาพร้อมกับรถยนต์หรูอีกกว่า 32 รุ่น ในงาน Motor Expo 2015 หรืองานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 32 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 2 –13 ธันวาคม 2558 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี

มร. ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์พรีเมี่ยม บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้แก่กลุ่มลูกค้าและผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยภายในงาน Motor Expo หรือมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 32 นี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จึงมีความภาคภูมิใจนำเสนอยนตรกรรมใหม่ล่าสุดกว่า 6 รุ่น ที่สะท้อนคุณค่าของแบรนด์ ทั้งในด้านความหลงใหล (Fascination) และความสมบูรณ์แบบ (Perfection) ออกมาอย่างลงตัว ผ่านรูปโฉมที่ได้รับการออกแบบอย่างปราดเปรียว และโฉบเฉี่ยว เทคโนโลยีที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาอย่างล้ำสมัย รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ นอกจากนี้ ภายในงานเรายังได้จัดเตรียมพื้นที่กว่า 1,884 ตารางเมตร ซึ่งนับว่าเป็นพื้นที่จัดแสดงที่ใหญ่ที่สุด ไว้สำหรับจัดแสดงยนตรกรรมหรูกว่า 32 คัน ในทุกเซ็กเมนต์ ไม่ว่าจะเป็น Contemporary Luxury, Compact Car และ Dream Car เพื่อให้ลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้เลือกสรรอย่างครบครันอีกด้วย”

ข้อมูลของ Mercedes Benz ทั้ง 6 รุ่นใหม่ (Mercedes-Benz models) มีดังต่อไปนี้

The new GLE Coupé AMG Dynamic : SUV สไตล์สปอร์ตอันหรูหราและทันสมัย The new GLE 350 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic ภายนอกตัวถังถูกออกแบบให้มีความสปอร์ต และปราดเปรียว ไม่ว่าจะเป็นลายเส้นโค้งเว้าที่ให้ความรู้สึกพลิ้วไหว กระจังหน้าอันแข็งแกร่งขนาดใหญ่ พร้อมตกแต่งด้วยตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง ไฟหน้าโค้งมนและกรอบไฟแบบ LED Intelligent Light System มีการเสริมชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG ซึ่งประกอบด้วย กันชนหน้าและหลัง ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้วแบบ AMG 5 ก้านคู่ หลังคาถูกออกแบบมีให้เส้นสายลาดเอียงไปทางด้านท้าย เพื่อเพิ่มความเรียบหรูและล้ำสมัย มาพร้อมพาโนรามิคซันรูฟ ซึ่งสามารถทำงานได้อัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า (Electric panoramic sliding glass sunroof) สำหรับการตกแต่งภายในห้องโดยสาร มีความหรูหรา สง่างาม ด้วยส่วนประกอบและวัสดุคุณภาพชั้นเยี่ยม สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้หลากหลาย เบาะนั่งด้านหลังแบบ 3 ที่นั่ง สามารถพับได้ทั้งแบบ 1/3 : 2/3 ตามความต้องการ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บสิ่งของ และรถรุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มความสะดวกและความบันเทิงในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น ด้วยระบบ COMAND Online และระบบควบคุมและสั่งงานด้วย Touchpad และให้การขับขี่ที่เหนือระดับด้วยระบบ Dynamic Select ที่มีโหมดการขับขี่ 4 แบบ คือ Individual ที่สามารถช่วยจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ขับได้, Comfort ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบาย, Slippery ที่เหมาะกับการวิ่งบนถนนที่ลื่น และ Sport ที่เพิ่มความเร้าใจในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบอากาศพร้อมระบบควบคุมระดับ ADS (Adaptive Damping System) เพื่อรองรับการขับขี่ในทุกสภาพถนนอีกด้วย

The new GLE 350 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแบบ V6 เทอร์โบ ทำงานประสานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้าแบบ 9G-TRONIC ความจุกระบอกสูบ 2,987 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุด 258 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร ที่ความเร็ว 1,600 รอบต่อนาที สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 7.0 วินาที มีความเร็วสูงสุด 226 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Permanent all-wheel drive ส่วนราคาของ The new GLE 350 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic อยู่ที่ 6,690,000 บาท

The new GLE-Class : รถครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถตอบสนองทุกการใช้งาน The new GLE-Class เป็นรถยนต์สไตล์ครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ล่าสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ได้พัฒนามาจาก M-Class ที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพความแข็งแกร่ง คล่องแคล่วปราดเปรียว และมีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์ โดยมีการเสริมภายนอกให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ด้วยลายเส้นสวยคมสะดุดตา พร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ หลังคาถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้าย เพื่อเน้นรูปแบบเรียบหรู ล้ำสมัย โดยรุ่นที่เปิดตัวในครั้งนี้ คือ GLE 250 d 4MATIC Exclusive และ GLE 250 d 4MATIC AMG Dynamic มีการตกแต่งอย่างหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมียม 2 แถบ พร้อมด้วยตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง กันชนด้านหน้าพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยโครเมียม ขอบหน้าต่างแบบโครเมียม ส่วนปลายท่อไอเสียเสริมด้วยโครเมียม 2 ท่อ ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED กระจกมองข้างด้านผู้ขับขี่และกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ โดย GLE 250 d 4MATIC รุ่น Exclusive จะมาพร้อมกับล้ออัลลอยสีเทาขนาด 20 นิ้ว ส่วน GLE 250 d 4MATIC AMG รุ่น Dynamic จะมีความสปอร์ตมากขึ้น ด้วยล้ออัลลอยสไตล์สปอร์ตจาก AMG สีเทาขนาด 20 นิ้ว พร้อมชุดแต่ง AMG bodystyling ที่บริเวณกันชนหน้า-หลัง ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน มีสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า บันไดข้างสเตนเลสแนวสปอร์ต และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟที่ทำงานอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า (Electric panoramic sliding glass sunroof)

ส่วนการตกแต่งภายในห้องโดยสาร เน้นความหรูหรา สง่างาม ที่มาพร้อมกับความสปอร์ตเช่นเดิม ซึ่งทั้ง 2 รุ่น จะหุ้มด้วยหนัง Artico ที่บริเวณด้านบนของคอนโซลหน้า และด้านบนของแผงหุ้มประตู และเสริมเทคโนโลยีที่ทันสมัย ด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push start) ระบบควบคุม THERMATIC แบบ 2 โซน ระบบเชื่อมต่อสื่อบันเทิง (media interface) และอุปกรณ์เครื่องเสียงวิทยุ-ซีดี MB Audio 20 พร้อมมอนิเตอร์ขนาด 8 นิ้ว และระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth โดยสำหรับ GLE 250 d 4MATIC รุ่น Exclusive ตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง ส่วน GLE 250 d 4MATIC AMG รุ่น Dynamic จะตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง nappa ซึ่งจะมาพร้อมกับชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต และระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon® Logic 7® ภายในห้องโดยสารของทั้ง 2 รุ่น สามารถปรับเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ โดยเบาะนั่งด้านหลังสามารถพับได้ทั้ง 1:3 / 2:3 ตามความต้องการ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บสิ่งของ นอกจากนี้ยังมีไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 3 สี เพื่อเพิ่มความสุนทรีย์ในการขับขี่อีกด้วย

GLE 250 d 4MATIC Exclusive และ GLE 250 d 4MATIC AMG Dynamic มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบคู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 9G-TRONIC พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุดที่ 204 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ความเร็ว 1,600-1,800 รอบต่อนาที สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 8.6 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 212 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ราคาของ GLE 250 d 4MATIC Exclusive อยู่ที่ประมาณ 4,990,000 บาท และ GLE 250 d 4MATIC AMG Dynamic มีราคาประมาณ 5,490,000 บาท

The new A 180 Style : โฉบเฉี่ยวในทุกการเดินทาง และสะดวกสบายกว่าที่เคยสัมผัส The new A 180 Style ถูกออกแบบให้มีการผสมผสานความโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว เข้ากับความสะดวกสบายขณะขับขี่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างลงตัว โดยภายนอกออกแบบเน้นหลักความเรียบง่าย ด้วยลายเส้นด้านข้างตัวรถที่พลิ้วไหวสะดุดตา และกรอบหน้าต่างที่ลาดต่ำ มาพร้อมกันชนหน้ารูปแบบใหม่ที่มีลักษณะคล้ายลูกศร ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถยนต์ Concept A-Class และยังมีกระจังหน้าแบบ Diamond grille พร้อมหมุดสีดำ ชุดไฟหน้าแบบ LED High Performance และชุดไฟท้ายแบบใหม่ที่ทันสมัยอีกด้วย

สำหรับภายในห้องโดยสาร ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดให้ดูทันสมัย และปราดเปรียวมากยิ่งขึ้น โดยรถยนต์รุ่นนี้จะมาพร้อมเทคโนโลยี DYNAMIC SELECT ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์ได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบเกียร์ ระบบกันสะเทือน พวงมาลัย หรือแม้กระทั่งระบบปรับอากาศห้องโดยสาร ก็สามารถควบคุมได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยการตั้งค่าดังกล่าวมีให้เลือกด้วยกัน 4 รูปแบบ ได้แก่ Comfort, Sport, Eco และ Individual

A 180 Style โฉมใหม่นี้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน ความจุกระบอกสูบ 1,595 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุดที่ 122 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 200 นิวตันเมตร ที่ความเร็ว 1,250 – 4,000 รอบต่อนาที สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 8.6 วินาที มีความเร็วสูงสุด 202 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยราคาของ A 180 Style รุ่นใหม่นี้อยู่ที่ประมาณ 1,990,000 บาท

The new B 200 Urban : รถยนต์ Compact Sports Tourer รูปแบบใหม่ ที่ทันสมัยกว่าเดิม The B-Class ใหม่เป็น B-Class รุ่นที่ 3 ที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ ให้มีความโฉบเฉี่ยวทันสมัยมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงความสวยงาม และมีพื้นที่ประโยชน์ใช้สอยในแบบรถครอบครัวเอาไว้เช่นเดิม โดยการออกแบบภายนอก มีความโดดเด่นในสไตล์รถยนต์ Compact Sports Tourer ด้วยแนวเส้นด้านหน้าที่เริ่มจากฝากระโปรงหน้าต่อเนื่องไปยังแนวหลังคาและสปอยเลอร์หลังคา และมีแนวเส้นด้านข้างที่เพิ่มความสปอร์ตมากขึ้น ส่วนด้านหน้าตกแต่งด้วยกระจังหน้ารูปแบบใหม่ พร้อมสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง และแผงกันชนหน้าที่มีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ รวมถึงไฟหน้า-หลังใหม่แบบ LED High Performance พร้อมเสริมไฟหน้าด้วยไฟ daytime เพื่อใช้สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED

สำหรับภายในห้องโดยสาร จะมาพร้อมกับเบาะนั่งหุ้มหนัง Leather พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น รวมถึงปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push start) วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 และยังมีระบบนำทาง (Pre-installation SD Card Navigation) อีกด้วย โดยห้องโดยสารถูกออกแบบมาให้มีความสะดวกสบายสูงสุดในทุกการขับขี่ ด้วยเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่ สามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ และเบาะนั่งด้านหลังสามารถพับได้ทั้ง 1:3 / 2:3 ตามความต้องการเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บสิ่งของ อีกทั้งยังมีไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient Lighting) ที่มีให้เลือกถึง 12 สี สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ รวมถึงปรับความเข้มอ่อนของแสงได้ 5 ระดับอีกด้วย

B 200 Urban ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ที่มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ 7G-DCT ความจุกระบอกสูบ 1,595 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 5,300 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,250 – 4,000 รอบต่อนาที สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 7.9 วินาที มีความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยราคาของ B 200 Urban รุ่นใหม่นี้อยู่ที่ประมาณ 2,440,000 บาท

The new G-Class: รถยนต์สไตล์ออฟโรด ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง G 350 d Sport รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ได้ถูกออกแบบให้ดูสปอร์ต แข็งแกร่งและดุดันมากยิ่งขึ้น ด้วยกันชนรูปแบบใหม่จากแบรนด์ AMG รวมถึงล้ออัลลอยน้ำหนักเบาแบบ 5 ก้าน ขนาด 19 นิ้ว

การออกแบบภายใน มีความสอดคล้องกับภายนอก ด้วยเส้นด้ายเบาะรถยนต์สีเดียวกับตัวรถ แผงหน้าปัดสำหรับผู้ขับขี่ 2 แผง หน้าจอแบบ Multifunction หน้าปัดและเข็มชี้ใหม่ รวมถึงหน้าปัดแบบสปอร์ต นอกจากนี้ The new G-Class ยังมาพร้อมการตกแต่งที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นสีสำหรับภายนอกรถยนต์ที่มีให้เลือกกว่า 13 สี ส่วนทางด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัย The new G-Class มาพร้อมความก้าวล้ำไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นระบบกันสะเทือนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของรถ ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสัมผัสกับความนุ่มสบายที่เพิ่มขึ้นขณะขับขี่บนท้องถนน ระบบ ESP ที่ปรับตั้งค่าได้โดยอัตโนมัติเพื่อรักษาสมดุลและความปลอดภัย ระบบเบรก ABS และระบบป้องกันการลื่นไถล ASR ที่ช่วยเพิ่มการยึดเกาะบนผิวถนนพร้อมลดระยะการเบรกลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

G 350 d Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ความจุกระบอกสูบ 2,987 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุด 245 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 600 นิวตันเมตร ที่ความเร็ว 1,600 – 2,400 รอบต่อนาที สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 8.8 วินาที มีความเร็วสูงสุด 192 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยราคาของ G 350 d Sport นี้อยู่ที่ประมาณ 8,490,000 บาท