รถกระบะยุคใหม่ และ 5 เหตุผลที่จะทำให้คุณหลงรัก
จำนวนประชากรที่มากกว่า 66 ล้านคน อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ยอดขายรถกระบะในประเทศไทยสูงเป็นอันดับสองของโลก แต่หากดูที่ยอดขายต่อจำนวนประชากรแล้ว ยอดขายรถกระบะในไทยก็ยังสูงอยู่ในอันดับต้นๆ โดยเฉพาะยอดขายรถกระบะประเภท 1 ตัน ซึ่งมียอดขายสูงเป็นอันดับ 1 สำหรับความนิยมของรถกระบะในไทยนั้น รถกระบะขนาดกลางถือว่าได้รับความนิยมสูงสุดและยังคงโตอย่างต่อเนื่อง ต่างจากตลาดรถกระบะสหรัฐฯ ที่รถกระบะขนาดใหญ่ได้รับความนิยมมากกว่า รถกระบะขนาดกลางในตลาดเมืองไทยถือว่ากำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เรื่อยๆ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่กำลังได้รับความสนใจจากผู้ใช้รถในเมืองที่มีมอเตอร์ไซค์ รถตุ๊กตุ๊ก และรถเก๋งเป็นยานพาหนะหลักในการเดินทาง
ยังอ่าน: ปิดตัว Isuzu D-Max 2016 โฉมใหม่พลังแรงเกินพิกัด
ด้วยอุปกรณ์ใช้งานระดับพรีเมียม พร้อมคุณสมบัติในเรื่องความทนทานและคล่องตัว พร้อมตัวเลือกที่มีหลากหลายในตลาด ทำให้ยอดขายรถกระบะในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยอดขายรถกระบะในปัจจุบันสูงกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในประเทศไม่เพียงเท่านั้น คุณสมบัติเหล่านี้ยังเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้รถกระบะเข้าไปครองใจของผู้ใช้รถจำนวนมาก เราได้รวบรวบคุณสมบัติหรืออาจเรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ของรถกระบะ ที่จะทำให้คุณอยากเป็นเจ้าของสักคัน
1. สมรรถนะแบบออฟโรด: นอกจากภายในห้องโดยสารที่ดูหรูหราขึ้นแล้ว รถกระบะในปัจจุบันยังคงไม่ทิ้งคุณสมบัติที่ทำให้รถกระบะยังคงสมรรถนะในการขับขี่ที่เหมาะกับทุกสภาพถนน อย่างระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ระยะระหว่างถนนถึงส่วนที่ต่ำสุดของรถ (ground clearance) ที่สูงกว่ารถยนต์นั่งทั่วไป ทำให้รถกระบะเป็นยานพาหนะที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่จะพาคุณออกไปผจญภัยในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
เลือกรถกระบะที่มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ที่พร้อมจะพาคุณออกไปโลดแล่นบนทุกเส้นทางออฟโรด
2. ขนได้หมด ทั้งคน สัตว์ สิ่งของ: รถกระบะสามารถทำให้คุณได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการบรรทุกคน ขนสินค้าอาหารสด หรือแม้แต่ขนส่งปศุสัตว์ พื้นที่ท้ายกระบะที่กว้างขวาง สามารถตอบโจทย์การใช้งานที่เกี่ยวข้องกับการบรรทุกหรือขนส่งสินค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นไปตามจุดประสงค์หลักของรถกระบะที่ผลิตขึ้นมาเพื่อการบรรทุกหรือขนส่งเป็นหลัก และหากนักปราชญ์ชาวกรีกอย่าง อาร์คิมิดีส ยังมีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ เขาคงดีใจไม่น้อยที่ได้เห็นพัฒนาการของรถกระบะในปัจจุบันก้าวไกลไปมาก เนื่องจากอาร์คิมิดีสเป็นอีกคนที่มีความหลงใหลในรถกระบะอย่างมาก ครั้งหนึ่งเขาเคยกล่าวไว้ว่า “ขอกระบะแกร่งๆ สักคัน เติมน้ำมันให้เต็มถัง แล้วฉันจะขับเคลื่อนโลก”
3. ปลอดภัยไว้ก่อน: รถกระบะในปัจจุบันได้รับการพัฒนาให้มีความสะดวกสบาย รวมถึงติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยไว้ไม่ต่างกับรถยนต์นั่งทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Active Safety) และเชิงปกป้อง (Passive Safety) อย่างระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบควบคุมการทรงตัว (ESC) ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสาร ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) ระบบช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก (HBA) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน (HDC) ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน (HAS) ระบบเบรกที่ตอบสนองดีเยี่ยม ระบบแจ้งเตือนวัตถุในมุมอับสายตา และอื่นๆ อีกมากมาย ไม่เพียงเท่านั้น รถกระบะบางยี่ห้ออย่าง เชฟโรเลต ยังได้เสริมเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง OnStar มาให้ด้วย ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยบนท้องถนนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมถึงตรวจตรา และแจ้งเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ พร้อมช่วยแจ้งไปยังแหล่งให้ความช่วยเหลือโดยอัตโนมัติ
4. ทัศนีวิสัยการขับขี่ที่เหนือกว่า: ด้วยตัวรถและตำแหน่งที่นั่งที่สูงกว่า คุณจึงมีทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีกว่า และมองเห็นทุกสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวรถ ให้คุณรู้สึกถึงอำนาจในการควบคุม ราวกับว่าคุณเป็นกัปตันเรือโจรสลัด ที่กำลังควบคุมเรือให้โลดแล่น และระดับที่นั่งที่สูงกว่ารถประเภทอื่นนี่เอง ที่จะช่วยปกป้องให้คุณปลอดภัยจากอุบัติเหตุ
5. ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น: รถกระบะในปัจจุบันได้รับการพัฒนาให้มีน้ำหนักเบาลง รวมถึงใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการพัฒนาให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น อย่างเทคโนโลยี Active Fuel Management ซึ่งจะทำหน้าที่จัดการการทำงานของกระบอกสูบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นขณะที่ใช้เชื้อเพลิงน้อยลง โดยรถกระบะที่มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 6 สูบ บางคัน สามารถทำอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงได้ถึง 8.4 กิโลเมตร/ลิตร
นางสาวภาสร เสาวรัติธาดา โฆษกโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เผยว่า “คนไทยใช้รถกระบะทั้งในชีวิตประจำวันและใช้เพื่อประกอบอาชีพ รถกระบะจึงต้องมีความทันสมัยและอัดแน่นด้วยประโยชน์ใช้สอย” สำหรับเมืองไทยนั้น นอกจากโตโยต้าแล้ว ยังมีแบรนด์ชั้นนำอย่าง มิตซูบิชิ ฟอร์ดและอีซูซุ เป็นคู่แข่งที่สำคัญในตลาดรถกระบะ
You might also be interested in
- ข่าว
- เรื่องราวที่โดดเด่น
- ล่าสุด
- ล่าสุด
- เป็นที่นิยม