วิวัฒนาการของตลาดรถยนต์มือสองในไทย

ตลาดรถยนต์มือสองในไทยมีการพัฒนาที่สำคัญในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในความต้องการของผู้บริโภค การเจริญทางเศรษฐกิจ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นและรายได้ที่ที่เพิ่มขึ้น ความต้องการรถที่ราคาไม่แพงได้กระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของกลุ่มตลาดนี้ รถยนต์มือสองได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย เนื่องจากความคุ้มค่า ความหลากหลายที่มากขึ้น และอัตราค่าเสื่อมราคาที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับรถยนต์ใหม่เอี่ยม

ในประเทศไทย ผู้ซื้อรถยนต์มือสองมาจากภูมิหลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่หลากหลาย แม้ว่าบางคนเลือกใช้รถยนต์มือสองเนื่องจากมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ แต่บางคนมองว่าเป็นทางเลือกที่เป็นประโยชน์มากกว่า นอกจากนี้ การเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มออนไลน์และตลาดรถมือสองที่หลากหลายได้อำนวยความสะดวกให้กับกระบวนการซื้อและขาย ทำให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกและเข้าถึงได้มากขึ้น ความต้องการรถยนต์มือสองมากกว่ารถยนต์ใหม่ยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยต่างๆ เช่น เบี้ยประกันที่ลดลง ค่าจดทะเบียนที่ลดลง และความพร้อมของตัวเลือกทางการเงินที่ปรับให้เหมาะกับรถยนต์มือสอง

วิวัฒนาการของตลาดรถมือสอง

ตลาดรถยนต์มือสองในประเทศไทยเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 โดยได้รับแรงหนุนหลักจากการนำเข้ารถยนต์มือสองจากญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ ในขณะที่เศรษฐกิจเติบโตและการขยายตัวของเมืองเร่งตัวขึ้น ความต้องการการขนส่งราคาไม่แพงก็เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้มีตัวแทนจำหน่ายรายย่อยและผู้ขายอิสระที่เชี่ยวชาญด้านรถยนต์มือสองเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดเผชิญกับความท้าทายต่างๆ รวมถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของยานพาหนะ การขาดความโปร่งใส และความไว้วางใจของผู้บริโภคที่จำกัด

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์มือสองในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างมาก โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายประการ การแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้จะก่อให้เกิดการหยุดชะงักในขั้นต้น แต่ท้ายที่สุดก็ได้เร่งให้เกิดการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการซื้อและขายรถยนต์มือสอง เนื่องจากผู้บริโภคมองหาทางเลือกที่ปลอดภัยและสะดวกกว่าการไปร้านจำหน่ายแบบดั้งเดิม จากสถิติล่าสุด ตลาดรถยนต์มือสองในประเทศไทยฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังวิกฤต

ดร.โชติวัฒน์ สฤษดิ์เวชวรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริษัท BB SMART CAR กล่าวว่า ในช่วงที่โควิด-19 ระบาด ตลาดรถยนต์มือสองมีการเติบโตสูงถึง 47% ในปี 2021 โดยในปี 2021 ที่ยอดรวมทั้งประเทศมีการออกรถมือสองไปได้มากถึง 2.5 ล้านคัน ซึ่งสูงกว่าตลาดรถมือหนึ่งถึง 3 เท่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่ายอดขายในตลาดรถยนต์มือสองปี 2022 เติบโตในช่วง 3-5% หรือคิดเป็นปริมาณการซื้อขายรถยนต์มือสองราว 6-7 แสนคัน นายศิวภูมิ เลิศสรรค์ศรัญย์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์ซัม (ประเทศไทย) จำกัด  เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์มือสองออนไลน์เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปี 2023 ซึ่งเห็นได้ชัดจากยอดการทำธุรกรรมซื้อรถยนต์มือสองผ่านช่องทางออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น นายพิชิต จันทรเสรีกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส (KCAR) คาดการณ์ว่า รายได้จากสัดส่วนธุรกิจขายรถมือสองของบริษัทจะเพิ่มขึ้นประมาณ 45-55% ในปี 2024

ปัจจัยที่เอื้อต่อการพัฒนาตลาดรถยนต์มือสอง

มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อวิวัฒนาการของตลาดรถยนต์มือสองในประเทศไทย ได้แก่

การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล 

การถือกำเนิดของตลาดออนไลน์และแอปพลิเคชันบนมือถือได้ปฏิวัติวิธีการซื้อและขายรถยนต์มือสอง โดยให้ความโปร่งใส ความสะดวกสบาย และการเข้าถึงแก่ผู้บริโภคมากขึ้น

โปรแกรมรถมือสองที่ผ่านการรับรอง 

โปรแกรมมือสองที่ผ่านการรับรอง (CPO) ซึ่งนำเสนอโดยผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่าย ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคที่ต้องการการรับประกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณภาพและความน่าเชื่อถือของยานพาหนะมือสอง

ความพึงพอใจของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง 

ความพึงพอใจของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปไปสู่ความยั่งยืน ความสามารถในการจ่าย และความคุ้มค่า ส่งผลให้ตลาดรถยนต์มือสองเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดในตลาดรถยนต์มือสองเพิ่มมากขึ้น

ยานพาหนะไฟฟ้าและไฮบริด 

การตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและการผลักดันของรัฐบาลต่อโซลูชันการขนส่งที่สะอาดยิ่งขึ้น ส่งผลให้ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดมือสองเพิ่มขึ้น ซึ่งขับเคลื่อนนวัตกรรมและการลงทุนในส่วนนี้

กฎระเบียบของรัฐบาล 

มาตรการกำกับดูแลที่มุ่งส่งเสริมความโปร่งใส การคุ้มครองผู้บริโภค และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม มีบทบาทสำคัญในการกำหนดภาพรวมตลาดรถยนต์มือสอง เสริมสร้างความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในหมู่ผู้ซื้อ

สรุปแล้ว วิวัฒนาการของตลาดรถยนต์มือสองในประเทศไทยสะท้อนให้เห็นถึงการรวมตัวกันของปัจจัยทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และกฎระเบียบ การขับเคลื่อนทางนวัตกรรม การขยายตัว และการเปลี่ยนแปลงภายในอุตสาหกรรม เมื่อมองไปข้างหน้า อนาคตของตลาดรถยนต์มือสองของไทยมีแนวโน้มสดใส โดยคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า ความยั่งยืน และความสะดวกสบายในทางเลือกการเดินทางมากขึ้น

อ่านยัง: 5 รถยนต์มือสองยอดนิยมในประเทศไทย